Top 3 คณะที่ตลาดแรงงานต้องการตัวที่สุด เรียนแล้วไม่ตกงาน!

“จบไปทำงานอะไร?” เป็นหนึ่งในคำถามที่เด็กจบใหม่ตอบยากที่สุด เพราะบางคนมีงานทำเลย บางคนเจอกับปัญหางานหายาก ทำให้ตกงานตามระเบียบไป อาชีพเคยบูมในอดีตกลับไม่ใช่ที่ต้องการในปัจจุบัน วันนี้จะพาทุกคนไปดูกันว่าเมื่อแนวโน้มตลาดแรงงานเปลี่ยนไป จะมีคณะไหนที่เรียนแล้วไม่ตกงาน มีโอกาสได้งานทำสูงที่สุด พร้อมบอกเหตุผลให้ดูชัด ๆ เลยว่า ทำไมคุณถึงควรเลือกเรียนคณะเหล่านี้

3 คณะที่เรียนแล้วไม่ตกงาน อนาคตสดใส พร้อมบอกลู่ทาง!

1. คณะโลจิสติกส์และเทคโนโลยีการบิน

คณะที่เรียนแล้วไม่ตกงาน และมีแนวโน้มมีศักยภาพสูงที่สุด ต้องยกให้สายงานโลจิสติกส์และเทคโนโลยีการบิน เนื่องจากสายงานนี้เป็นหัวใจสำคัญของระบบเศรษฐกิจโลกที่เชื่อมโยงผู้ผลิต ผู้บริโภค และประเทศต่าง ๆ เข้าด้วยกัน การเรียนคณะนี้จะเป็นการเปิดโอกาสให้คุณได้ทำงานในหลากหลายตำแหน่งที่มีความมั่นคง 

เมื่อไม่นานมานี้ กระทรวงแรงงานร่วมมือกับสถาบันการบินพลเรือน เปิดหลักสูตรฝึกอบรมเพื่อพัฒนาคนทำงานด้านโลจิสติกส์กว่า 2,000 คนเลยทีเดียว! เพราะว่าปัจจุบันธุรกิจออนไลน์เติบโตขึ้นมาก ทำให้ความต้องการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นจึงขาดแคลนคนที่มีความรู้ความสามารถด้านการจัดการขนส่งสินค้าเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งทางเครื่องบิน รถบรรทุก หรือเรือ การที่ภาครัฐให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรด้านนี้ แสดงให้เห็นว่าอาชีพด้านโลจิสติกส์เป็นอาชีพที่มีอนาคตสดใสและมีความต้องการในตลาดแรงงานสูงกว่าที่คิดไว้มากเลยทีเดียว 

ทำไมสายงานโลจิสติกส์และเทคโนโลยีการบินถึงเป็นที่ต้องการอย่างมาก?

• การเติบโตของอีคอมเมิร์ซ: เมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป เช่น ช้อปปิ้งออนไลน์มากขึ้น ทำให้หลายบริษัทต้องขยายขีดความสามารถในการขนส่ง และแน่นอนว่าความต้องการเหล่านี้ได้ไปกระตุ้นให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ไปจนถึงความต้องการด้านบุคลากรที่มีความสามารถ
• การเติบโตของการค้าระหว่างประเทศ: การเติบโตของการค้าระหว่างประเทศเป็นเหมือนแรงผลักดันให้ภาคการขนส่งต้องพัฒนาและปรับตัวอยู่ตลอดเวลา ทั้งในแง่ของปริมาณการขนส่งที่เพิ่มขึ้น และการปรับปรุงระบบขนส่ง พร้อมหาเส้นทางการค้าใหม่ ๆ ที่เชื่อมโยงกันทั่วโลก
• การพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งและการบิน: การมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น ระบบติดตามพัสดุอัตโนมัติ หุ่นยนต์ในคลังสินค้า หรือแม้แต่โดรนส่งของ ทำให้การขนส่งสินค้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุน และลดความผิดพลาดในการขนส่งอีกด้วย นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเรียนคณะโลจิสติกส์และเทคโนโลยีการบิน จึงเป็นคณะที่เรียนแล้วไม่ตกงานนั่นเอง

เพราะแบบนี้การเลือกเรียนคณะโลจิสติกส์และเทคโนโลยีการบิน จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในยุคที่โลกเชื่อมโยงกันมากขึ้น ข้อดีอีกอย่างของการเรียนคณะนี้คือ เป็นคณะที่เรียนแล้วไม่ตกงานแน่นอน เนื่องจากความหลากหลายของสายงานที่รองรับ ใครที่อยากรู้ว่าอาชีพโลจิสติกส์จบไปทำอะไรบ้าง ไปอ่านต่อได้เลยที่ รู้ครบ! วงการโลจิสติกส์ จบมาทํางานอะไร? อาชีพใหม่ ๆ ในยุคดิจิทัล

2. คณะศิลปศาสตร์

คณะศิลปศาสตร์ เป็นอีกหนึ่งในคณะที่น่าสนใจ เพราะมีเส้นทางอาชีพที่หลากหลาย หลาย ๆ บริษัทล้วนอยากได้คนจบศิลปศาสตร์ไปทำงานด้วย เพราะคณะนี้ไม่ใช่การเรียนแค่ภาษาและวรรณคดี แต่ยังเป็นการเรียนรู้ทักษะพื้นฐานอย่างการคิด วิเคราะห์ แก้ปัญหาด้วยวิธีสร้างสรรค์ร่วมด้วย แต่หากถามว่าศิลปศาสตร์ เป็นคณะหรือสาขาที่เรียนแล้วไม่ตกงาน 100% เลยใช่ไหม? ต้องตอบเลยว่า ไม่ใช่ เพราะสุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับทักษะและความสามารถที่ตัวเราพัฒนาขึ้นมาเองด้วย

หากยังนึกภาพสายงานของคณะนี้ไม่ออก ลองนึกถึง เจ.เค. โรว์ลิ่ง (J.K. Rowling) หรือที่คุ้นเคยกันดีว่าเป็นนักเขียนผู้ให้กำเนิดโลกของเวทมนตร์อย่าง Harry Potter เธอเป็นหนึ่งในตัวอย่างความสำเร็จของบุคคลระดับโลกที่จบคณะศิลปศาสตร์ โดยเธอเลือกเรียนสาขาภาษาฝรั่งเศสและวรรณกรรมคลาสสิก หลังจบการศึกษาเธอมีโอกาสได้ทำงานในหลากหลายอาชีพ รวมไปถึงการเป็นนักแปลและทำงานด้านการศึกษาก่อนที่จะเขียนซีรีส์ Harry Potter ผลงานชิ้นเอกที่มีอิทธิพลต่อคนทั่วโลกจนถึงในยุคปัจจุบัน 

นอกจากนี้ รายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุว่าบัณฑิตศิลปศาสตร์ เป็นคณะที่จบแล้วมีงานรองรับ ส่วนใหญ่สามารถหางานทำได้ภายในระยะเวลาอันสั้นและมีอัตราการว่างงานต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของบัณฑิตจบใหม่ในสาขาอื่น ๆ อีกทั้งยังมีการสำรวจความคิดเห็นของบริษัทชั้นนำอีกหลาย ๆ ที่พบว่าพวกเขาต้องการพนักงานที่มีทักษะด้านการสื่อสาร ความคิดสร้างสรรค์ และการแก้ปัญหา ซึ่งเป็นทักษะที่บัณฑิตศิลปศาสตร์มี ใครที่ไม่รู้จะเรียนคณะอะไรดี แต่รู้ว่าตัวเองสนุกกับการเรียนภาษา ศิลปศาตร์ก็ถือเป็นคณะที่น่าสนใจเลย

3. คณะเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม

คณะเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม เป็นหนึ่งในคณะที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน และมีแนวโน้มที่จะยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานต่อไปในอนาคตอันใกล้ แล้วทุกคนสงสัยไหมว่าเหตุผลอะไรที่ทำให้คณะนี้เป็นคณะที่เรียนแล้วไม่ตกงานในยุคนี้? ไปดูต่อกันเลย!

• การเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัล หรือ Digital Transformation 

ยุคนี้เป็นยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของเราทุกคน ทำให้ธุรกิจต่าง ๆ ต้องปรับตัวเพื่อให้ทันสมัย ธุรกิจทุกขนาดไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กต่างก็ต้องนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเพื่อให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ในตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัลจึงเป็นเหมือนการบ้านที่ธุรกิจทุกแห่งต้องทำเพื่อความอยู่รอดและเติบโตต่อไป

• ทักษะที่ตรงกับความต้องการของตลาด

ทักษะทางเทคนิคที่แข็งแกร่ง เช่น การเขียนโปรแกรม การวิเคราะห์ข้อมูล และและทักษะที่ไม่ใช่ทางเทคนิค เช่น ความคิดสร้างสรรค์ การแก้ปัญหา และการทำงานเป็นทีม เป็นทักษะเฉพาะทางที่บริษัทไหนต่างก็อยากได้ตัว จึงไม่แปลกใจเลยว่าคนในสายงานนี้จะเงินเดือนสูง เพราะใช้ความเฉพาะทางและต้องเปิดโอกาสในการเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ อยู่เสมอ

ซึ่งการที่บริษัทวิจัยชื่อดัง Gartner ระบุว่าความต้องการบุคลากรด้าน Data Scientist เป็นที่ต้องการตัวสูง แสดงให้เห็นว่าโลกเรากำลังเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว ทำให้บริษัทต่าง ๆ ต้องการคนที่เก่งด้านข้อมูลมาช่วยวิเคราะห์และนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ เพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้ หรือหากอธิบายให้เห็นภาพชัดขึ้น ลองค้นหาคำว่า “นักพัฒนาซอฟต์แวร์” ในเว็บไซต์หางานอย่าง LinkedIn หรือ Jobdbs จะพบว่ามีตำแหน่งงานเปิดรับสมัครจำนวนมาก หากคุณเป็นอีกคนที่ไม่รู้เรียนคณะอะไรดี รู้แค่ว่าอยากเรียนในคณะที่จบแล้วมีงานรองรับ คณะเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมตอบโจทย์อย่างมาก!

เบิกทางสู่อนาคตที่สดใสด้วยการเรียนรู้ อัปสกิลเตรียมความพร้อมที่ SBU 

ก่อนที่จะไปได้ถึงตรงนั้น ก็เริ่มตั้งแต่วันนี้ที่ SBU เปิดสอน Top 3 คณะที่เรียนแล้วไม่ตกงาน และคณะอื่น ๆ อีกมากมาย ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน เรียนจบไปก็หางานง่าย มีแต่คนอยากได้ตัวเข้าทำงาน ยิ่งไปกว่านั้น ที่ SBU ยังมีบริการกู้ยืมเงินกยศ. ทำให้การเรียนต่อไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป สามารถแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้ ในขณะเดียวกันก็มีโอกาสได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาตนเองให้ก้าวทันโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอีกด้วย สมัครได้แล้ววันนี้ที่ SBU Admission

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก มติชน / SAS