วิธีขอทุน กยศ. ง่ายนิดเดียว! กู้ กยศ ใช้อะไรบ้าง? มือใหม่หัดกู้เริ่มยังไงดี?
“อยากเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น แต่ติดอุปสรรคทางการเงิน ทำให้ต้องเลิกฝัน” กยศ. ทางออกที่ดีที่สุดของคนรักเรียนแต่ไม่อยากหยุดฝัน พร้อมช่วยให้ทุกคนได้เข้าถึงการศึกษาอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายให้ปวดหัว แล้วสงสัยว่าจะขอทุน กยศ. ยังไง? กู้ กยศ ใช้อะไรบ้าง? มือใหม่หัดกู้ก็ทำได้แบบง่าย ๆ ผ่านฉลุย!
กยศ. คืออะไร?
กยศ. ย่อมาจาก กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เป็นหน่วยงานของรัฐที่ตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือนักเรียน นักศึกษาที่ต้องการเงินทุนในการศึกษาต่อ ครอบคลุมค่าเทอมและค่าใช้จ่ายชีวิตประจำวัน พอจบออกมาทำงานแล้วเราก็ค่อย ๆ ผ่อนชำระเงินคืนให้กับกยศ. ไปดูกันดีกว่าว่าก่อนที่จะกู้ กยศ. ใช้อะไรบ้าง? เอกสารกยศ มีอะไรบ้าง? และเรื่องต่าง ๆ ที่ควรรู้ในการกู้ กยศ. ให้ผ่าน
ใครสามารถกู้ กยศ. ได้บ้าง?
หลายคนเข้าใจผิดคิดว่า กยศ. เป็นเงินกู้เฉพาะนักศึกษาปริญญาตรีเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย เพราะสามารถกู้ได้ทั้งนักเรียนมัธยมปลาย สายสามัญ สายอาชีพ หรือแม้แต่นักศึกษาปริญญาตรี ก็สามารถกู้ กยศ. ได้หมดเลย ซึ่งจะแบ่งลักษณะการกู้เป็น 5 ลักษณะ ดังนี้
- เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาให้แก่นักเรียนหรือนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ (ครอบครัวมีรายได้ไม่เกินปีละ 360,000 บาท)
- เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาให้แก่นักเรียนหรือนักศึกษาที่ศึกษาในสาขาที่เป็นความต้องการหลัก ซึ่งมีความชัดเจนของการผลิตกำลังคน และมีความจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศ
- เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาให้แก่นักเรียนหรือนักศึกษาที่ศึกษาในสาขาวิชาขาดแคลน หรือที่กองทุนมุ่งส่งเสริมเป็นพิเศษ
- เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาให้แก่นักเรียนหรือนักศึกษาที่เรียนดีเพื่อสร้างความเป็นเลิศ โดยให้กู้ในระดับปริญญาโท
- ลักษณะอื่นตามความจำเป็นและเหมาะสม
เช็กศึกษาคุณสมบัติอย่างละเอียดได้ที่ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)
วงเงินและขอบเขตการให้เงินกู้ยืม กยศ.
ระดับการศึกษา / สาขาวิชา | ค่าเล่าเรียน (บาท / ปี) | ค่าครองชีพ (บาท / ปี) |
มัธยมศึกษาตอนปลาย | 14,000 | 21,600 |
ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) | 21,000 | 36,000 |
ปวท. / ปวส. หรือเทียบเท่า | 25,000-60,000 | 36,000 |
อนุปริญญา / ปริญญาตรี | 50,000-200,000 | 36,000 |
ประกาศนียบัตรบัณฑิต | 200,000 | 36,000 |
ปริญญาโท | 80,000-200,000 | 36,000 |
อยากได้ทุน กยศ. ต้องทำยังไง? เอกสาร กยศ. มีอะไรบ้าง?

การกู้ กยศ ช่วยให้เราได้เข้าถึงโอกาสทางการศึกษาอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องแบกภาระทางการเงินให้หนักอกหนักใจ อยากรู้ว่าต้องเตรียมกู้ กยศ. ใช้อะไรบ้าง? วันนี้ตอบครบทุกข้อสงสัย ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการขอทุน เอกสารกู้ กยศ. หรือวิธีเซ็นสําเนาถูกต้อง บัตรประชาชน กยศ. ต้องเซ็นอย่างไร? เพื่อความถูกต้องและความรวดเร็ว จะได้ไม่ต้องกลับมาแก้ให้เสียเวลา ไปดูกันเลยว่าการขอทุน กยศ. นั้นง่ายแค่ไหน ไปดูกัน!
1. เช็กกำหนดการให้กู้ยืม
เริ่มจากการเช็กกำหนดการกู้ กยศ. ก่อนเลยว่าเปิดตั้งแต่รอบวันที่เท่าไหร่ เพื่อที่จะได้จัดเตรียมเอกสารและส่งให้ทันในรอบนั้น ๆ ซึ่งทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่เข้าไปที่เว็บไซต์ของ กยศ. โดยตรง คือ หน้าข่าวสารการประชาสัมพันธ์เรื่องกองทุน เพื่อดูการอัปเดตกำหนดการให้กู้ยืมเงินกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาประจำปี
2. เช็กคุณสมบัติทั่วไป
- มีสัญชาติไทย
- ศึกษาหรือได้รับการตอบรับให้เข้าศึกษาอยู่ในสถานศึกษาที่ร่วมดำเนินงานกับกองทุน
- เป็นผู้ขอกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาในการเข้าศึกษาที่สถานศึกษาเพียงแห่งเดียวในคราวภาคการศึกษาเดียวกัน
- มีผลการเรียนดีหรือผ่านเกณฑ์การวัดและประเมินผลของสถานศึกษา
- มีความประพฤติดี ไม่ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับของสถานศึกษาขั้นร้ายแรงหรือไม่เป็นผู้ที่มีความประพฤติเสื่อมเสีย เช่น หมกมุ่นในการพนัน เสพยาเสพติดให้โทษ ดื่มสุราเป็นอาจิณหรือเที่ยวเตร่ในสถานบันเทิงเริงรมย์เป็นอาจิณ เป็นต้น
3. เตรียมเอกสารให้ครบ
3.1 แบบคำขอกู้ยืมเงินที่จัดพิมพ์ออกจากระบบ e-Studentloan และแบบคำขอกู้ยืมเงินที่เป็นเอกสาร (แบบ กยศ.101)
3.2 หนังสือให้ความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูล
- ผู้กู้ยืม
- บิดา มารดา (ผู้แทนโดยชอบธรรม*)/ผู้ปกครอง
- คู่สมรส (ถ้ามี)
3.3 สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และ สำเนาทะเบียนบ้าน
- ผู้กู้ยืม
- บิดา มารดา (ผู้แทนโดยชอบธรรม*)/ผู้ปกครอง
- คู่สมรส (ถ้ามี)
3.4 เอกสารประกอบการรับรองรายได้ของครอบครัว
- กรณีมีรายได้ประจำ ใช้สลิปเงินเดือน/หนังสือรับรองเงินเดือน
- กรณีไม่มีรายได้ประจำ/ไม่มีรายได้ เช่น ค้าขาย รับจ้าง เกษตรกร ใช้แบบฟอร์ม กยศ.102 พร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ/ข้าราชการ/ หัวหน้าสถานศึกษา
3.5 หนังสือแสดงความคิดเห็นของอาจารย์แนะแนวหรืออาจารย์ที่ปรึกษา (แบบ กยศ.103)
3.6 แผนผังแสดงที่ตั้งของที่อยู่อาศัย พร้อมรูปถ่ายที่อยู่อาศัยของบิดา มารดา หรือผู้ปกครอง
3.7 ใบแสดงผลการศึกษา/สำเร็จการศึกษาในปีการศึกษาที่ผ่านมา
3.8 เอกสารอื่น ๆ ซึ่งสถานศึกษาพิจารณาเพิ่มเติม
ดูตัวอย่างเอกสาร กยศ. และการเขียนสําเนาถูกต้อง กยศ. ได้ที่ เอกสารประกอบการยื่นคำขอกู้ผ่านระบบ DSL
4. ลงทะเบียนผ่านระบบ DLS
การกู้ กยศ. เริ่มจากลงทะเบียนผ่านระบบ e-Studentloan เพื่อขอรหัสผ่านเข้าใช้งาน > ยื่นคำขอ > ตรวจสอบคุณสมบัติ > กำหนดวงเงิน > ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิกู้ยืม > ทำสัญญา > ตรวจสอบสัญญา > บันทึกค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา > ลงนามในแบบฟอร์ม > ตรวจสอบข้อมูล > นำส่งสัญญาให้ธนาคาร
ง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน เราก็สามารถขอเงินทุนเพื่อการศึกษาได้แล้ว หากมีข้อสงสัยใด ๆ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยหรือกองทุน กยศ. ได้เลย!
การชำระหนี้และดอกเบี้ย กยศ. เป็นอย่างไร?
- ระยะเวลาชำระหนี้: ต้องชำระเงินกู้คืนให้เสร็จสิ้นภายใน 15 ปี นับจากวันที่เริ่มต้องชำระหนี้
- อัตราดอกเบี้ย: คิดดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปี จากยอดเงินต้นที่ค้างชำระ
- วันครบกำหนดชำระ: ต้องชำระหนี้งวดแรกภายในวันที่ 5 กรกฎาคม หลังจากหมดระยะเวลาปลอดหนี้ และต้องชำระหนี้งวดต่อไปในวันที่ 5 กรกฎาคมของทุกปี
- ค่าปรับ: หากชำระหนี้ล่าช้า จะต้องชำระค่าปรับตามที่ กยศ. กำหนด
- ชำระหนี้ก่อนกำหนด: สามารถชำระหนี้คืนก่อนกำหนดได้โดยไม่ต้องเสียค่าปรับ หรือดอกเบี้ยเพิ่มเติม (ยกเว้นบางกรณี เช่น กรณีที่ยังอยู่ในระยะเวลาปลอดหนี้ 2 ปี)
ตัวอย่างสถานการณ์การกู้ยืมเงิน กยศ.
นาย ก. ศึกษาอยู่คณะโลจิสติกส์ ของมหาวิทยาลัย SBU กรอบวงเงินค่าเล่าเรียนระดับปริญญาตรี คณะโลจิสติกส์ ที่ กยศ. กำหนดไว้คือ 80,000 บาทต่อปี แต่ค่าเทอมต่อปีของมหาวิทยาลัยที่นาย ก. ศึกษาอยู่จริง ๆ คือ 75,000 บาทต่อปี
ในกรณีนี้:
- วงเงินที่กู้ได้: นาย ก. จะได้รับวงเงินกู้ยืมค่าเล่าเรียนสูงสุดเท่ากับค่าเทอมที่มหาวิทยาลัยเรียกเก็บจริง คือ 75,000 บาท
- ค่าครองชีพ: นอกจากวงเงินค่าเล่าเรียนแล้ว นาย ก. ยังมีสิทธิ์ขอรับเงินค่าครองชีพเพิ่มเติมอีกเดือนละ 3,000 บาท (หากมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่ กยศ. กำหนด)
สรุป: แม้ว่ากรอบวงเงินค่าเล่าเรียนที่ กยศ. กำหนดไว้จะสูงกว่าค่าเทอมจริง แต่ผู้กู้ยืมจะได้รับวงเงินกู้ยืมค่าเล่าเรียนสูงสุดเท่ากับค่าเทอมที่มหาวิทยาลัยเรียกเก็บจริงเท่านั้น
เรียน SBU สบายใจ ไร้กังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ด้วยเงินทุนจาก กยศ.
ใครที่มีใจรักการเรียน พร้อมพัฒนาตัวเอง การเลือกกู้กยศ.ก็ถือเป็นอีกทางเลือกที่ดีเลย เพราะดอกเบี้ยชำระคืนต่ำมาก ๆ และยังช่วยให้เราแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้เยอะเลยทีเดียว ยิ่งถ้าได้เรียนในมหาวิทยาลัย SBU ของเรา รับรองเลยว่าทุกคนจะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ มีโอกาสพัฒนาตัวเองให้เป็น My Best Version ได้อีกด้วย ที่สำคัญที่สุดเลือกเรียนที่ SBU ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีที่ทำงาน เพราะมหาวิทยาลัยเรามีโปรแกรมบริการหางานเพื่อนักศึกษา ให้ทุกคนได้เจออาชีพที่ใช่อีกด้วย ฉะนั้น อย่าปล่อยให้เรื่องเงินมาเป็นอุปสรรคในการเรียนรู้ของตัวเอง
