จบม.6 เรียนต่อสายอาชีพได้ไหม? มีสาขาอะไรน่าสนใจ ต่อมหาลัยได้ไหม?

จบม.6 เรียนต่อสายอาชีพ มีอะไรบ้าง? ข้อดีและข้อจำกัด พร้อมตอบประเด็นที่คนอยากรู้มากที่สุด ม.6 เรียนต่อสายอาชีพหรือมหาวิทยาลัยดีกว่ากัน?

น้อง ๆ ที่กำลังจะจบม.6 แล้วต้องเลือกเส้นทางชีวิตต่ออาจจะกำลังสับสนว่าจะไปทางไหนดี? อยากเรียนต่อสายอาชีพ แต่กลัวจะถูกจำกัดอนาคต? หรือจริง ๆ แล้วมันอาจเป็นทางเลือกที่ช่วยให้เราพร้อมเข้าสู่โลกการทำงานเร็วขึ้น? แล้วถ้าอยากเรียนต่อมหาวิทยาลัย เพื่อต่อยอดความรู้ให้เติบโตในสายงานที่สูงขึ้นได้ไหม? วันนี้จะพาไปหาคำตอบกัน พร้อมแปะสาขาที่น่าสนใจของสายอาชีพ เพื่อที่จะได้เลือกเส้นทางที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด

ม.6 เรียนต่อสายอาชีพได้ไหม?  เรียนกี่ปี?

เด็กสายอาชีพ

โดยปกติแล้วสำหรับอาชีพสามารถเริ่มได้ตั้งแต่ม.3 พูดง่าย ๆ คือ หากรู้ว่าตัวเองชอบอะไรเร็วและเลือกสายอาชีพในสายสาขาที่ตนเองสนใจได้ ก็ถือว่าเป็นข้อได้เปรียบ เพราะนั่นหมายความแทนที่เราจะขึ้นม.4 แต่เราเลือกเรียนสายอาชีพหรือที่รู้จักกันว่า ปวช. ซึ่งหลักสูตร ปวช. จะใช้เวลาเรียน 3 ปี ซึ่งเทียบเท่ากับการเรียน ม.4-ม.6 นั่นเอง จากนั้นก็สามารถเลือกต่อได้อีกว่าอยากจะเรียนต่อปวส. หรือมหาวิทยาลัย 

แต่สำหรับน้อง ๆ ม.6 ที่สนใจอยากเรียนสายอาชีพ สามารถเข้าศึกษาต่อในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ได้เลย โดยทั่วไปแล้วหลักสูตร ปวส. จะใช้เวลาเรียน 2 ปี แต่บางสถาบันอาจมีหลักสูตรที่สั้นกว่าหรือยาวกว่านี้ขึ้นอยู่กับสาขาวิชาที่เลือกเรียน หากเรียนจบแล้วสามารถทำงานในสายอาชีพที่เลือกได้ทันที หรือจะเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นก็ได้ 

ข้อดีและข้อจำกัดของการเรียนต่อสายอาชีพ

การเรียนต่อสายอาชีพเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับน้อง ๆ หลังจบ ม.6 เพราะเป็นการศึกษาที่เน้นทักษะเฉพาะทางและเตรียมความพร้อมให้น้อง ๆ เข้าสู่ตลาดแรงงานได้เร็วขึ้น แต่ก่อนตัดสินใจ เรามาทำความเข้าใจข้อดีและข้อจำกัดของการเรียนสายอาชีพกันดีกว่า

ข้อดีของการเรียนต่อสายอาชีพ

  • ได้ฝึกปฏิบัติจริง: หลักสูตรเน้นการปฏิบัติจริง ทำให้ได้ลงมือทำจริงและเรียนรู้ทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงาน
  • ระยะเวลาเรียนสั้น: หลักสูตรในสายอาชีพส่วนใหญ่ใช้เวลาเรียนที่สั้นกว่าในการเรียนปริญญาตรี (ประมาณ 1-3 ปี) เมื่อจบแล้วสามารถทำงานได้ทันที หรือเลือกฝึกงานเพื่อเพิ่มประสบการณ์
  • ค่าใช้จ่ายน้อยกว่า: ค่าใช้จ่ายในการศึกษาต่อสายอาชีพโดยทั่วไปจะน้อยกว่าการศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี
  • ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงาน: หลายสาขาอาชีพมีความต้องการบุคลากรสูง ทำให้น้อง ๆ มีโอกาสได้งานทำที่มั่นคง
  • ได้ทักษะเฉพาะทาง: เน้นการเรียนรู้ทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงานในสาขาอาชีพนั้น ๆ ทำให้มีความพร้อมในการทำงานได้ทันที
  • มีโอกาสเติบโตในสายงาน: หลายสถาบันมีหลักสูตรต่อยอด เช่น ปวส. หรือ ปริญญาตรี ทำให้น้อง ๆ สามารถศึกษาต่อเพื่อพัฒนาตนเองได้

ข้อจำกัดของการเรียนต่อสายอาชีพ

  • ขอบเขตความรู้เฉพาะทาง: เนื่องจากเน้นความเชี่ยวชาญในสาขาอาชีพเฉพาะ ทำให้อาจมีข้อจำกัดในการเปลี่ยนสายงาน
  • โอกาสในการเรียนต่อระดับสูงอาจมีจำกัด: บางสาขาอาชีพอาจมีข้อจำกัดในการต่อยอดไปสู่ระดับปริญญาตรีในบางคณะ

จบม.6 เรียนต่อสายอาชีพ มีสาขาอะไรบ้าง

สายอาชีพ สาขาที่น่าสนใจ

1. ประเภทวิชาอุตสาหกรรม

ตัวอย่างวิชาสาขาที่น่าสนใจ

  • ช่างยนต์: ฝึกฝนทักษะในการซ่อมแซมและบำรุงรักษารถยนต์และเครื่องจักรต่าง ๆ
  • ช่างไฟฟ้า: เรียนรู้เกี่ยวกับระบบไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้า การติดตั้งและซ่อมแซมไฟฟ้า
  • ช่างอิเล็กทรอนิกส์: การทำงานกับวงจรอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศัพท์มือถือ, คอมพิวเตอร์
  • ช่างเครื่องกล: การออกแบบและซ่อมแซมเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ ในอุตสาหกรรม

2. ประเภทวิชาพาณิชยกรรม/บริหารธุรกิจ

ตัวอย่างวิชาสาขาที่น่าสนใจ

  • การจัดการธุรกิจ: ฝึกทักษะการบริหารและการจัดการองค์กร การวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจ
  • การเงินและการธนาคาร: วิเคราะห์และตัดสินใจการลงทุน ประเมินความเสี่ยงทางการเงิน การจัดการสินเชื่อและหนี้สิน
  • การบัญชี: จัดทำงบการเงิน ควบคุมการเงิน วางแผนภาษี ตรวจสอบบัญชี
  • การตลาด: วิจัยตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภค การโฆษณา และพัฒนากลยุทธ์การขายเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับองค์กร

3. ประเภทวิชาศิลปกรรม

ตัวอย่างวิชาสาขาที่น่าสนใจ

  • จิตรกรรม: การสร้างสรรค์ผลงานศิลปะโดยใช้สีและวัสดุอื่นๆ บนพื้นผิว เช่น ผ้าใบ กระดาษ หรือพื้นผิวต่างๆ เพื่อสื่อสารความคิดและอารมณ์
  • ประติมากรรม: การสร้างผลงานศิลปะที่เป็นรูปทรงสามมิติ เช่น รูปปั้น การแกะสลัก การหล่อ และการทำงานจากวัสดุต่างๆ เช่น หิน ไม้ ดิน โลหะ หรือวัสดุสมัยใหม่
  • ออกแบบกราฟิก: การออกแบบสื่อที่ใช้กราฟิกและภาพถ่ายเพื่อสื่อสารข้อมูล การสร้างงานกราฟิกที่ใช้ในการโฆษณา การสื่อสารออนไลน์ หรือการผลิตสิ่งพิมพ์
  • ศิลปะการสื่อสาร: การใช้ศิลปะในการสื่อสารข้อความหรือแนวคิดสู่สาธารณะ ทั้งในรูปแบบภาพ วิดีโอ หรือสื่อที่มีการเคลื่อนไหว

4. ประเภทวิชาคหกรรม

ตัวอย่างวิชาสาขาที่น่าสนใจ

  • โภชนาการและอาหาร: ศึกษาเกี่ยวกับอาหารและการบริโภคอาหารที่เหมาะสมเพื่อสุขภาพ การพัฒนาเมนูอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ และการให้คำปรึกษาด้านโภชนาการ
  • เทคโนโลยีผ้าและเครื่องแต่งกาย: ออกแบบและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับผ้า เสื้อผ้า และเครื่องแต่งกาย รวมถึงการพัฒนาและผลิตเสื้อผ้าและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมแฟชั่นและสิ่งทอ
  • การบริหารงานคหกรรมศาสตร์: การบริหารจัดการครัวเรือน การพัฒนาทักษะในการดูแลบ้าน การจัดการงบประมาณ การวางแผนการดำเนินชีวิตครัวเรือนอย่างมีประสิทธิภาพ
  • อุตสาหกรรมอาหาร: ศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการผลิตอาหาร การควบคุมคุณภาพ การพัฒนาและการจัดการในอุตสาหกรรมอาหาร รวมถึงการทำงานในธุรกิจการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม

5. ประเภทวิชาเกษตรกรรม

ตัวอย่างวิชาสาขาที่น่าสนใจ

  • สัตวศาสตร์: การเลี้ยงดู การดูแล การผลิต และการจัดการสัตว์ทั้งในด้านเศรษฐกิจและการเกษตร
  • การเกษตรกรรม: การปลูกพืชและการเลี้ยงสัตว์ การทำฟาร์ม
  • เทคโนโลยีการเกษตร: การพัฒนาและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการเกษตร
  • ช่างกลเกษตร: ทักษะด้านเครื่องจักรกลที่ใช้ในการเกษตร เช่น เครื่องมือและเครื่องจักรในการเพาะปลูก การจัดการพืชผล การเก็บเกี่ยว 

6. ประเภทวิชาประมง

ตัวอย่างวิชาสาขาที่น่าสนใจ

  • การประมงเชิงพาณิชย์: ศึกษาวิธีการจับสัตว์น้ำในเชิงพาณิชย์ เช่น การใช้เครื่องมือจับสัตว์น้ำ การเลือกแหล่งที่จับสัตว์น้ำ การบริหารจัดการฟาร์มประมง
  • การเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ: ศึกษาวิธีการคัดเลือกและเพาะพันธุ์สัตว์น้ำเพื่อให้ได้พันธุ์ที่ดีสำหรับการเลี้ยงในเชิงการค้า
  • การจัดการอุตสาหกรรมประมง: การจัดการการผลิตและการบริหารงานในอุตสาหกรรมประมง ทั้งในด้านการประมง การแปรรูป และการจัดจำหน่าย
  • การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำ: วิธีการแปรรูปสัตว์น้ำ เช่น การทำปลาเค็ม ปลากระป๋อง แปรรูปเนื้อสัตว์น้ำเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ

7. ประเภทวิชาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

ตัวอย่างวิชาสาขาที่น่าสนใจ

  • การจัดการโรงแรม: ฝึกทักษะการบริหารโรงแรม การบริการลูกค้า การจัดการห้องพัก
  • การท่องเที่ยว: การเป็นมัคคุเทศก์ การจัดทัวร์ และการจัดการธุรกิจการท่องเที่ยว
  • การบริการอาหารและเครื่องดื่ม: การฝึกทำอาหาร การบริการในร้านอาหาร โรงแรม และสถานบันเทิง
  • การจัดการธุรกิจขนส่ง: บริหารจัดการและการดำเนินงานในธุรกิจการขนส่ง ซึ่งครอบคลุมทั้งการขนส่งสินค้าหรือผู้โดยสาร การจัดการโลจิสติกส์ การวางแผนเส้นทาง การบริหารงานขนส่ง

8. ประเภทวิชาอุตสาหกรรมสิ่งทอ

ตัวอย่างวิชาสาขาที่น่าสนใจ

  • เทคโนโลยีสิ่งทอ: กระบวนการผลิตและการพัฒนาในอุตสาหกรรมสิ่งทอ ตั้งแต่การผลิตเส้นใย การทอผ้า ไปจนถึงการพัฒนาเทคโนโลยีในการทำงานกับผ้า
  • เคมีสิ่งทอ: ใช้ความรู้ทางเคมีในการปรับปรุงคุณสมบัติของสิ่งทอ เช่น การย้อมสี การเคลือบผ้า และการรักษาผ้าให้ทนทานต่อการใช้งาน
  • เทคโนโลยีเครื่องนุ่งห่ม: ออกแบบและการผลิตเครื่องนุ่งห่ม (เสื้อผ้า) ตั้งแต่การออกแบบแฟชั่นจนถึงการผลิตเสื้อผ้าที่มีคุณภาพ
  • เทคโนโลยีการทอผ้าไหมและผ้าพื้นเมือง: ศึกษาและการพัฒนาเทคโนโลยีในการทอผ้าไหมและผ้าพื้นเมือง ซึ่งเป็นเทคนิคการทอผ้าแบบดั้งเดิมที่มีความสำคัญในหลายประเทศในเอเชีย เช่น ไทยและลาว

9. ประเภทวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

ตัวอย่างวิชาสาขาที่น่าสนใจ

  • การพัฒนาเว็บไซต์: การเขียนโปรแกรมและพัฒนาเว็บไซต์
  • การดูแลระบบเครือข่าย: การดูแลรักษาระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่ายในองค์กร
  • การเขียนโปรแกรม: การเรียนรู้ภาษาโปรแกรมต่างๆ เช่น Java, Python, C++
  • การออกแบบกราฟิกดิจิทัล: การสร้างงานออกแบบกราฟิกดิจิทัล สำหรับสื่อออนไลน์

เทียบชัด! ม.6 เรียนต่อ ปวส. หรือ มหาวิทยาลัย ดีกว่ากัน?

การตัดสินใจว่าจะเรียนต่อ ปวส. หรือ มหาวิทยาลัยดีกว่ากันนั้น ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและความสนใจของแต่ละบุคคล ซึ่งทั้งสองทางเลือกต่างมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป

  • เรียนต่อ ปวส. (2 ปี) ข้อได้เปรียบคือเข้าสู่ตลาดแรงงานได้เร็ว และเน้นการเรียนรู้ทักษะเฉพาะทางที่ใช้ได้จริงในภาคอุตสาหกรรม เหมาะกับคนที่ต้องการเริ่มต้นอาชีพเร็วและมีความมั่นใจในทักษะที่เลือกเรียน
  • เรียนต่อมหาวิทยาลัย (4 ปี) เหมาะกับผู้ที่ต้องการพัฒนาความรู้กว้างขวาง และมีโอกาสเติบโตในตำแหน่งที่มี ความรับผิดชอบสูง เช่น การบริหาร การตลาด หรืออาชีพที่ต้องใช้ความรู้ทางวิชาการในระดับสูง และต้องการโอกาสในการเรียนต่อปริญญาโทหรือทำงานในองค์กรใหญ่

โดยสรุปแล้ว การเลือกเรียนต่อขึ้นอยู่กับว่าน้อง ๆ ต้องการพัฒนาตัวเองไปในทิศทางใดมากกว่ากัน 

เลือกเรียนต่อในเส้นทางไหนก็มีใบปริญญาได้ ที่ SBU

สำหรับเด็ก ปวส. ที่อยากเรียนต่อมหาวิทยาลัย สามารถทำได้เช่นกัน เพราะความรู้ไม่มีขีดจำกัด มหาวิทยาลัยหลายแห่งเปิดโอกาสให้นักศึกษาที่จบ ปวส. สามารถเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีได้ โดยอาจมีการเทียบโอนหน่วยกิตบางส่วนได้เช่นกัน ทำให้ใช้เวลาในการศึกษาในระดับปริญญาตรีสั้นลงเหลือเพียง 1.5-2 ปีเท่านั้น ซึ่งมหาวิทยาลัยเซาธ์อีสท์บางกอกเป็นหนึ่งในเส้นทางที่น่าสนใจ เนื่องจาก SBU มีหลักสูตรที่ออกแบบมาเพื่อรองรับผู้ที่จบการศึกษาในระดับ ปวส. โดยเฉพาะ ทำให้นักศึกษาสามารถพัฒนาทักษะและความรู้เพิ่มเติมได้อย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าเป็นการต่อยอดความรู้ที่จะทำให้น้อง ๆ มี แต้มต่อ ในการทำงานในอนาคตอย่างแน่นอน

รับสมัครนักศึกษาใหม่ sbu