เลือกเรียนต่อปริญญาโท สาขาไหนดี? วิธีเลือกสาขาที่ใช่ อนาคตไกล

สับสนว่าจะเลือกเรียนต่อปริญญาโท สาขาไหนดี? เลือกสาขาที่ใช่ โอกาสในอนาคต พร้อมอัปเดตสาขาฮิตที่น่าสนใจในไทย พร้อมขั้นตอนการสมัครที่ครบครัน

ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเรียนต่อปริญญาโทเลย หรือ พักก่อนดี? เป็นเรื่องปกติที่หลายคนจะรู้สึกสับสนและลังเลใจ เพราะเป็นการตัดสินใจที่ส่งผลกระทบต่ออนาคตในระยะยาว แต่ไม่ต้องกังวลและคิดว่าต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว การมีปริญญาโทก็เป็นเหมือนการลงทุนในตัวเอง เพิ่มโอกาสให้ก้าวหน้าไปอีกขั้นในอาชีพการงาน นอกจากนี้หลายมหาวิทยาลัยยังมีหลักสูตรปริญญาโทที่ออกแบบมาให้ผู้เรียนสามารถทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยได้ในระยะเวลา 1.5-2 ปี ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการพัฒนาตนเองแต่ยังอยากเก็บเกี่ยวประสบการณ์การทำงานไปพร้อม ๆ กันอีกด้วย แล้วจะมีแนวทางในการเลือกเรียนต่อปริญญาโท สาขาไหนดี? หรือเรียน ป.โท ที่ไหนจบง่าย? ไปดูสาขาปริญญาโท ที่น่าสนใจในไทยกันเลย!

รวม 4 สายสาขาปริญญาโท ที่น่าสนใจในไทย เรียนต่อปริญญาโท สาขาไหนดี?

1. คณะบัญชีและวิทยาการจัดการ (MBA)

หลักสูตร MBA แบบ Block Course เรียนวันอาทิตย์วันเดียว เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับใครที่ต้องการเพิ่มพูนความรู้และทักษะทางธุรกิจแบบเข้มข้น ในระยะเวลาอันสั้นเพียง 1.5 ปี รูปแบบการเรียนแบบนี้ตอบโจทย์คนทำงานที่ต้องการความยืดหยุ่นในการเรียนรู้ โดยไม่ต้องลาออกจากงานประจำ ทำให้เราสามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ได้ทันที

ผู้หญิงทำงานบัญชี เอกสารและครื่องคิดเลข

สาขา MBA หรือปริญญาโทบริหารธุรกิจ ยังคงเป็นหนึ่งในปริญญาโทที่ได้รับความนิยมสูงสุดทั่วโลก เหมาะกับคนที่ต้องการพัฒนาตนเองให้เป็นผู้นำทางธุรกิจที่เก่งรอบด้าน เป็นคณะที่สามารถเรียน ป.โท ข้ามสายมาได้ พูดง่าย ๆ คือ เรียนจบปริญญาตรีในสายสาขาไหนมา ก็สามารถเลือกเรียน MBA ได้ แถมจบ ป.โท MBA ยังสามารถทํางานอะไรหลากหลายด้าน ไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งการเรียนคณะนี้จะช่วยให้เรามีทักษะในการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา การตัดสินใจ มีทักษะในการบริหารจัดการองค์กร และการปรับตัวให้เข้ากับสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา หลายคนที่ไม่รู้จะเรียนต่อปริญญาโท สาขาไหนดี? คณะบัญชีและวิทยาการจัดการ MBA คือคำตอบสุดท้ายของใครหลาย ๆ คนเลย

มีกลุ่มวิชาเลือก (Elective Course) ที่หลากหลาย คือ

  • กลุ่มวิชาการตลาด (Marketing)
  • กลุ่มวิชาการเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurship)
  • กลุ่มวิชาการจัดการอุตสาหกรรม (Industrial Management)
  • กลุ่มวิชาการจัดการสมัยใหม่ (Modern Management)
  • กลุ่มวิชาการจัดการธุรกิจดิจิทัล (Digital Business Management)
  • กลุ่มวิชาการบัญชีบริหาร (Managerial Accounting)

คุณสมบัติผู้เรียน

  • สำเร็จการศึกษาปริญญาตรี
  • คำแนนเฉลี่ยสะสม ป.ตรี ไม่ต่ำกว่า 2.20 หรือมีประสบการณ์ทำงาน 2 ปี

2. คณะโลจิสติกส์และเทคโนโลยีการบิน (MSc)

โลจิสติกส์เป็นภาคส่วนที่สำคัญของเศรษฐกิจโลก และมีความต้องการบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถสูง การเรียนต่อปริญญาโท สาขาโลจิสติกส์และเทคโนโลยีการบินในระยะเวลาเพียง 1.5 ปี จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก ๆ เพราะนอกจากจะได้ความรู้ที่ทันสมัยและเจาะลึกในสาขาที่กำลังเติบโตแล้ว ยังได้เปรียบในหลายๆ ด้านเลย อย่างแรกคือ จบเร็ว ทำงานได้ไว ไม่ต้องเสียเวลาเรียนนาน ๆ ทำให้เราสามารถเริ่มต้นอาชีพการทำงานได้เร็วขึ้น และด้วยหลักสูตรที่เป็นทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ทำให้เราพร้อมทำงานในระดับสากลได้อย่างมั่นใจอีกด้วย  

พนักงานโลจิสติกส์ทำงานในโกดังตรวจสอบสินค้า

สำหรับใครที่ยังคิดว่าคณะโลจิสติกส์และเทคโนโลยีการบิน ยังเป็นอะไรที่ใหม่และยังมองไม่เห็นการเติบโตของสายงานนี้ แนะนำให้คิดถึงช่วงเวลาที่โลกเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 ในช่วงที่เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวลง แต่โลจิสติกส์กลับเป็นหนึ่งในไม่กี่อุตสาหกรรมที่ยังคงเดินหน้าต่อไป เพราะโลกยังต้องการสินค้าและบริการอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ต้องมีการขนส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ วัคซีน ยารักษาโรค และอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลไปยังทั่วโลกอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ หากไม่มีระบบโลจิสติกส์ที่แข็งแกร่ง การรับมือกับวิกฤตครั้งนี้ก็คงเป็นไปได้ยากมาก นี่จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คณะโลจิสติกส์และเทคโนโลยีการบิน กลายเป็นสาขาปริญญาโท ที่น่าสนใจในไทยเลยทีเดียว ใครที่อยากรู้ต่อว่าแล้วแนวโน้มความต้องการของอาชีพโลจิสติกส์ในยุคดิจิทัลเป็นอย่างไร? จบสายนี้มาทํางานอะไรได้บ้าง? ไปอ่านต่อกันได้เลยที่ รู้ครบ! วงการโลจิสติกส์ จบมาทํางานอะไร? อาชีพใหม่ ๆ ในยุคดิจิทัล

คุณสมบัติผู้เรียน

  • เป็นผู้สําเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี มีคะแนนเฉลี่ยสะสม ไม่ตํ่ากว่า 2.20 
  • เป็นผู้สําเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี หรือเทียบเท่าจากสถาบันอุดมศึกษาในประเทศ หรือต่างประเทศที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ ก.พ. รับรอง

3. คณะเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม (MSIT)

นักศึกษาชายใช้คอมพิวเตอร์

คณะเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมคือคณะที่ไม่เพียงแต่จะสอนให้คุณมีความรู้ แต่ยังจะปลูกฝังให้คุณมีความคิดสร้างสรรค์ และความสามารถในการแก้ปัญหา ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญสำหรับคนที่ต้องการประสบความสำเร็จในยุคดิจิทัล หากพูดถึงโอกาสในตลาดแรงงาน ต้องบอกเลยว่าผู้สำเร็จการศึกษาจากคณะเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมมีความต้องการสูงในตลาดแรงงานปัจจุบัน เนื่องจากธุรกิจทุกประเภทต่างต้องการบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านเทคโนโลยีเพื่อมาช่วยพัฒนาและบริหารจัดการระบบต่าง ๆ โดยสามารถทำงานได้หลากหลายตำแหน่ง เช่น นักพัฒนาซอฟต์แวร์ นักวิเคราะห์ข้อมูล นักออกแบบ UX/UI ผู้จัดการโครงการ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ และด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี โอกาสในการเติบโตในสายอาชีพนี้จึงมีอย่างไม่จำกัด

วิชาเลือกที่น่าสนใจ

  • การจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ: เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจด้านการบริหารจัดการระบบสารสนเทศในองค์กร
  • วิทยาการสารสนเทศ: เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจด้านการจัดเก็บ ข้อมูล และการวิเคราะห์ข้อมูล
  • การบริหารเครือข่ายและความมั่นคง: เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจด้านการรักษาความปลอดภัยของระบบเครือข่าย

คุณสมบัติผู้เรียน

  • เป็นผู้สําเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี มีคะแนนเฉลี่ยสะสม ไม่ตํ่ากว่า 2.20 
  • เป็นผู้สําเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี หรือเทียบเท่าจากสถาบันอุดมศึกษาในประเทศ หรือต่างประเทศที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ ก.พ. รับรอง

4. คณะศิลปศาสตร์ (MEd)

หญิงสาวหาความรู้ในห้องหนังสือ

ทำไมต้องเรียนต่อปริญญาโทในคณะศิลปศาสตร์? หลายคนอาจมองว่าปริญญาตรีศิลปศาสตร์เพียงพอต่อการทำงานแล้ว แต่ในความเป็นจริง การเรียนต่อปริญญาโทในสาขาที่เกี่ยวข้องกับศิลปศาสตร์นั้น จะเปิดโอกาสให้เราได้พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง ได้เจาะลึกในสาขาวิชาที่สนใจ และก้าวสู่เส้นทางอาชีพที่น่าสนใจยิ่งขึ้น หลักสูตรบริหารการศึกษา จะได้เรียนรู้ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ ทั้งด้านการบริหารจัดการ การนำเทคโนโลยีมาใช้ และการวิจัย เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาให้ดียิ่งขึ้น ผู้สำเร็จการศึกษาจะสามารถเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางการศึกษา และสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เรียนในยุคปัจจุบัน และพร้อมรับมือกับความท้าทายในศตวรรษที่ 21

คุณสมบัติผู้เรียน

  • สำเร็จการศึกษาปริญญาตรี
  • คำแนนเฉลี่ยสะสม ป.ตรี ไม่ต่ำกว่า 2.20 หรือมีประสบการณ์ทำงาน 2 ปี

แนวทางในการเลือกเรียนต่อปริญญาโทในสาขาที่ใช่

1. รู้จักตัวเอง

 เริ่มต้นจากการสำรวจตัวเองให้ดีก่อนว่ามีความสนใจและความถนัดในด้านใดบ้าง เช่น ชอบงานที่ต้องคิดวิเคราะห์ข้อมูลหรือชอบงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ หรืออาจจะชอบทำงานที่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น การทำความเข้าใจตัวเองจะช่วยให้เราสามารถเลือกสาขาที่เหมาะสมกับตัวเรามากที่สุดได้

2. ตั้งเป้าหมายในชีวิต

สิ่งนี้จะเป็นตัวกำหนดทิศทางของชีวิตของเราได้ดี สมมติตั้งเป้าหมายว่า อยากเป็นผู้จัดการระดับสูงในบริษัทระดับโลก การเลือกเรียนปริญญาโทในสาขาบริหารธุรกิจ (MBA) ก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะคณะนี้จะทำให้เราได้เรียนรู้ทักษะด้านการบริหารจัดการ การวางแผนกลยุทธ์ การตัดสินใจ และการทำงานเป็นทีม ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับผู้บริหารระดับสูง นอกจากนี้ การมีปริญญาโทยังเป็นใบเบิกทางให้เราก้าวเข้าสู่ตำแหน่งงานที่สูงขึ้นได้อีกด้วย

3. ศึกษาตลาดแรงงาน

การศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับตลาดแรงงาน จะช่วยให้เราเห็นภาพอนาคตของอาชีพที่สนใจได้ชัดเจนขึ้น ลองคิดดูว่าการเรียนในสาขานั้น ๆ จะทำให้เรามีโอกาสทำงานที่ดีในองค์กรที่ใฝ่ฝันหรือไม่ หรือจะสามารถเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองได้หรือเปล่า การศึกษาแนวโน้มของตลาดแรงงานจึงเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เราเลือกเรียนต่อปริญญาโทได้เหมาะสมยิ่งขึ้น

4. หาหลักสูตรที่ตรงใจ จากสถาบันที่ใช่

สิ่งที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกหลักสูตร คือ เนื้อหาของหลักสูตร มีวิชาบังคับและวิชาเลือกอะไรบ้าง ยกตัวอย่าง มหาวิทยาลัยเซาธ์อีสท์บางกอก (SBU) ที่มีหลักสูตรมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงานในโลกปัจจุบัน เช่น การคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และการทำงานเป็นทีม อีกทั้งอาจารย์ผู้สอนของ SBU ก็ล้วนมีประสบการณ์ทำงานจริงในภาคอุตสาหกรรม ทำให้สามารถนำความรู้และประสบการณ์มาถ่ายทอดให้กับนักศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เวลาเรียนก็มีความยืดหยุ่น ทำให้ SBU จึงกลายเป็นสถาบันที่ตอบโจทย์ใครหลาย ๆ คน 

5. ระยะเวลาการเรียน 

การพิจารณาระยะเวลาในการเรียนต่อปริญญาโท เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาในการวางแผนศึกษาต่อ เพราะมีผลต่อทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย หากรู้ระยะเวลาในการเรียนคร่าว ๆ จะช่วยให้เราสามารถวางแผนการเงิน การทำงาน และชีวิตส่วนตัวได้อย่างเหมาะสม ซึ่งระยะเวลาในการเรียนต่อปริญญาโทมักจะแตกต่างกันไปตามแต่ละสถาบันและหลักสูตร โดยทั่วไปแล้ว ปริญญาโทจะใช้เวลาเรียนประมาณ 1-2 ปี แต่ก็มีบางหลักสูตรที่อาจใช้เวลานานกว่านี้ เช่น หลักสูตรที่ต้องทำวิทยานิพนธ์

ขั้นตอนในการสมัครเรียนปริญญาโทที่ SBU

การตัดสินใจเรียนต่อปริญญาโท คงเรียกได้ว่าเป็นก้าวที่ใหญ่อีกก้าวนึงของใครหลาย ๆ คน แต่หากเลือกแล้ว มั่นใจได้เลยว่าจะไม่ผิดหวัง เพราะการเลือกลงทุนกับตัวเองถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด หากพร้อมที่จะก้าวสู่ขั้นต่อไปของชีวิตแล้ว แต่ยังสับสน ไม่รู้จะเรียนป.โท ที่ไหนดี? SBU หรือ มหาวิทยาลัยเซาธ์อีสท์บางกอก พร้อมเป็นจุดเริ่มต้นให้คุณได้เริ่มพัฒนาศักยภาพได้อย่างเต็มที่ และเป็นเพื่อนร่วมทางในการเดินทางสู่ความสำเร็จของคุณ ใครสนใจอยากสมัครเรียนง่าย ๆ ทำตามนี้ได้เลย!

1. เช็กคุณสมบัติผู้สมัครในสายคณะสาขาที่ตนเองสนใจ

2. เตรียมเอกสารที่จำเป็น 

3. ตรวจสอบการดำเนินการเรียนการสอนปริญญาโท

  • ภาคเรียนที่ 1 : กรกฎาคม – พฤศจิกายน
  • ภาคเรียนที่ 2 : ธันวาคม – เมษายน 
  • ภาคการศึกษาฤดูร้อน : พฤษภาคม – มิถุนายน

4. ค่าเทอม : ค่าเทอมในแต่ละหลักสูตรมีราคาที่แตกต่างกัน (มีส่วนลดสูงสุด 50% สําหรับบุคลากรทางการศึกษา และพนักงานเจ้าหน้าที่บริษัทที่ลงนามข้อตกลง (MOU) *ส่วนลดเป็นไปตามที่มหาวิทยาลัยกําหนด*

5. ระยะเวลาเปิดรับสมัครเรียนต่อปริญญาโท : มกราคม – มิถุนายน ของทุกปี

6. สมัครได้ที่ : admission.southeast.ac.th/master หรือ มหาวิทยาลัยเซาธ์อีสท์บางกอกที่ตั้งบางนา ได้ทุกวัน (ยกเว้นวันหยุดราชการ) 08.00-17.00 น.

7. ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม : 02 744 7356-65 

เลือกเรียนต่อปริญญาโทที่ SBU พลิกโฉมตัวเองให้พร้อมกว่าเดิม 

ปริญญาโทไม่ใช่แค่ใบปริญญาอีกใบ แต่เป็นเหมือนใบเบิกทางสู่โอกาสใหม่ ๆ ที่กว้างกว่าเดิม ที่ SBU เราเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ร่วมทำวิจัยกับอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายสาขา คุณจะได้เรียนรู้วิธีคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหา และพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อสังคม นอกจากนี้ ยังมีเครือข่ายพันธมิตรกับภาคอุตสาหกรรมชั้นนำ ทำให้คุณมีโอกาสได้นำความรู้ที่เรียนมาไปประยุกต์ใช้จริง พร้อมเรียนรู้ที่จะเป็นผู้นำในอนาคต ด้วยการพัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีม การสื่อสาร และการนำเสนอผลงาน ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นต่อการประสบความสำเร็จในทุกวงการ สมัครได้แล้วที่นี่

รับสมัครนักศึกษาใหม่ sbu