เรียนสายวิศวกรรมยานยนต์ เงินเดือนสูงไหม? สาขาไหนที่ตอบโจทย์อนาคต

หลายคนอาจสงสัยว่า “เรียนสายวิศวกรรมยานยนต์ เงินเดือนสูงไหม?” หรือ “สาขาไหนในวิศวกรรมยานยนต์ที่ตอบโจทย์อนาคต?” วันนี้จะพาไปส่องเงินเดือนเริ่มต้นของสายวิศวกรรมยายนต์ จะปังแค่ไหน? เลือกเรียนในสายสาขานี้แล้วจะคุ้มค่าและตอบโจทย์ตลาดแรงงานในอนาคตหรือไม่? เอาเป็นว่าเราไปดูตั้งแต่เทรนด์ตลาดแรงงาน เงินเดือนเฉลี่ย หรือสาขาที่กำลังมาแรงในอนาคต เพื่อเป็นข้อมูลให้น้อง ๆ นักศึกษาที่กำลังตัดสินใจเลือกเรียนได้ง่ายขึ้นกัน!

วิศวกรรมยานยนต์ คืออะไร? 

วิศวกรรมยานยนต์ คือ สาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบ การพัฒนา การผลิต และการทดสอบยานยนต์ต่าง ๆ รวมถึงระบบและเทคโนโลยีที่ใช้ในยานพาหนะ ทั้งระบบเครื่องยนต์ ระบบขับเคลื่อน ระบบไฟฟ้า และระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของยานยนต์

วิศวกรรมยานยนต์ เงินเดือนเริ่มต้นเฉลี่ยอยู่ที่เท่าไหร่?

1. สำหรับเด็กจบใหม่ (ระดับเริ่มต้น)

เงินเดือนเริ่มต้น: ประมาณ 18,000 – 25,000 บาท ต่อเดือน

นักศึกษาที่จบใหม่ในสาขาวิศวกรรมยานยนต์ (ไม่มีประสบการณ์ทำงาน) จะได้รับเงินเดือนในช่วงนี้ หากมีการฝึกงานหรือมีทักษะเฉพาะทางที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยียานยนต์ (เช่น การออกแบบด้วย CAD หรือความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า) อาจได้รับเงินเดือนที่สูงขึ้นเล็กน้อย

2. สำหรับวิศวกรที่มีประสบการณ์ 1-3 ปี

เงินเดือน: ประมาณ 25,000 – 35,000 บาท ต่อเดือน

เมื่อคุณมีประสบการณ์ทำงานสัก 1-3 ปี และมีทักษะที่ใช้งานได้จริง เช่น การพัฒนาเครื่องยนต์ การออกแบบหรือทดสอบยานยนต์ หรือการทำงานในโครงการที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ คุณจะมีโอกาสได้รับเงินเดือนในช่วงนี้

3. สำหรับวิศวกรที่มีประสบการณ์ 3-5 ปี (หรือมากกว่า)

เงินเดือน: ประมาณ 35,000 – 100,000 บาท ต่อเดือน

เมื่อคุณมีประสบการณ์ทำงานมากขึ้น เช่น 3-5 ปี หรือมากกว่า และสามารถทำงานในตำแหน่งที่มีความรับผิดชอบสูงขึ้น เช่น วิศวกรอาวุโส ผู้จัดการโครงการ หรือวิศวกรที่พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ คุณจะได้รับเงินเดือนที่สูงขึ้นในช่วงนี้

ปัจจัยใดบ้างที่ทำให้วิศวกรรมยานยนต์ ได้รับเงินเดือนสูง?

1. วุฒิการศึกษา

วิศวกรที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาวิศวกรรมยานยนต์จะมีโอกาสได้รับเงินเดือนเริ่มต้นที่สูงกว่าวุฒิการศึกษาอื่น ๆ โดยเฉพาะหากได้รับการฝึกฝนในโปรแกรมพิเศษที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) หรือ การขับขี่อัตโนมัติ (Autonomous Vehicles) ก็จะยิ่งทำให้โปรไฟล์โดดเด่นยิ่งขึ้น 

2. ประสบการณ์ทำงาน

ประสบการณ์ทำงาน นับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อระดับเงินเดือนของวิศวกรยานยนต์ โดยเฉพาะในบริษัทชั้นนำ เช่น Tesla หรือ BMW ก็ยิ่งจะทำให้ผู้สมัครมีความได้เปรียบในการแข่งขันสูง เพราะบริษัทเหล่านี้เป็นที่รู้จักในด้านมาตรฐานที่สูงและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย สามารถเข้าใจถึงกระบวนการผลิตและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่ายิ่งคุณมีประสบการณ์ทำงานในอุตสาหกรรมยานยนต์มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสได้รับเงินเดือนที่สูงขึ้นเท่านั้น

3. ทักษะเฉพาะทาง

หากคุณเป็นคนที่มีความเชี่ยวชาญในทักษะเฉพาะทาง เช่น ความรู้ด้านการพัฒนาแบตเตอรี่ การออกแบบมอเตอร์ไฟฟ้า การพัฒนาเทคโนโลยี AI ในรถยนต์ หรือแม้แต่ทักษะในการบริหารจัดการโครงการ หรือ การประสานงานระหว่างแผนก ก็เป็นคุณสมบัติที่ทำให้มีโอกาสได้ค่าจ้างสูง เพราะสิ่งเหล่านี้คือองค์ประกอบที่สำคัญในการแข่งขันในตลาดยานยนต์แห่งอนาคต ยิ่งคุณมีความเชี่ยวชาญในทักษะที่เป็นที่ต้องการของตลาดมากเท่าไหร่ โอกาสที่คุณจะได้รับการคัดเลือกและได้รับค่าตอบแทนที่สูงก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

4. ตำแหน่งงาน

ตำแหน่งที่มีความรับผิดชอบมากขึ้น หรือความรับผิดชอบงานที่ซับซ้อนขึ้น เช่น หัวหน้าทีมวิศวกร ผู้จัดการโครงการ หรือวิศวกรระดับอาวุโส มักจะได้รับค่าตอบแทนที่สูงกว่า เนื่องจากต้องรับผิดชอบงานที่ซับซ้อนและท้าทายมากขึ้น อีกทั้งยังต้องคอยดูแลการประสานงานระหว่างทีมวิศวกรหลายฝ่าย รวมถึงต้องจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการพัฒนา ซึ่งบางครั้งอาจต้องตัดสินใจในสถานการณ์ที่ยากลำบากและมีความเสี่ยงสูง ทำให้ต้องใช้ทั้งประสบการณ์ ความรู้ลึกในหลายด้าน และการตัดสินใจที่แม่นยำ ทำให้โครงการเหล่านั้นลุล่วงไปได้ด้วยดี

5. ความต้องการของตลาด

ปัจจุบันอุตสาหกรรมยานยนต์กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว รถยนต์ไม่ใช่แค่เครื่องจักรกลอีกต่อไป แต่เป็นเทคโนโลยีที่ผสมผสานระหว่างเครื่องกล ไฟฟ้า และซอฟต์แวร์เข้าด้วยกัน ทำให้เกิดความต้องการวิศวกรที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะทางสูง เพื่อพัฒนารถยนต์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น รถยนต์ไฟฟ้า รถยนต์ไร้คนขับ และรถยนต์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ความต้องการที่สูงขึ้นนี้เองที่ผลักดันให้เงินเดือนของวิศวกรยานยนต์สูงขึ้นตามไปด้วย

วิศวกรรมยานยนต์ในสาขาใดมีเงินเดือนสูงที่สุด?

สาขาที่น่าจับตามองและมีศักยภาพในการสร้างรายได้สูงที่สุด คือ วิศวกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle Engineering) ด้วยเหตุผลหลักคือ ความต้องการของตลาดที่สูงมาก อีกทั้งเทรนด์ของยานยนต์ทั่วโลกหันมาให้ความสำคัญกับพลังงานสะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้บริษัทยานยนต์ชั้นนำ เช่น Tesla และ BYD ต่างก็แข่งขันกันพัฒนายานยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ความต้องการวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านนี้สูงขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ ความซับซ้อนของเทคโนโลยีในรถยนต์ไฟฟ้า เช่น แบตเตอรี่ มอเตอร์ และระบบควบคุมต่าง ๆ ก็ต้องการวิศวกรที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะทางสูง ทำให้ผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าต่างก็อยากได้ตัววิศวกรยานยนต์ไฟฟ้าที่มีทักษะหลากหลาย มาพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดอุตสาหกรรมนี้

อนาคตของวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย จะเป็นไปทางไหน? 

อนาคตของวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยจะมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปในทิศทางที่สำคัญหลายด้าน โดยเฉพาะการมุ่งไปสู่ รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และ เทคโนโลยีอัจฉริยะ ที่กำลังเป็นที่นิยมทั่วโลก สังเกตจากการที่ภาครัฐและเอกชนเริ่มมีการสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป

แนวโน้มที่น่าสนใจของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในอนาคตมีดังนี้:

• การเติบโตของยานยนต์ไฟฟ้า (EV): รัฐบาลไทยมีนโยบายส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจัง ทำให้ค่ายรถยนต์ต่าง ๆ หันมาลงทุนในการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการแข่งขันที่สูงขึ้น และราคาของรถยนต์ไฟฟ้าจะเข้าถึงได้มากขึ้น
• เทคโนโลยีอัตโนมัติ: รถยนต์ในอนาคตจะมาพร้อมกับเทคโนโลยีอัตโนมัติมากขึ้น เช่น ระบบช่วยเหลือการขับขี่ ระบบนำทางอัจฉริยะ และในที่สุดก็จะเป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนได้เอง ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเดินทางและการขนส่งไปอย่างสิ้นเชิง
• การเชื่อมต่อระหว่างยานยนต์: รถยนต์ในอนาคตจะเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้มากขึ้น และสามารถอัปเดตซอฟต์แวร์ได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ รถยนต์ยังสามารถสื่อสารกันเองได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจราจร
• วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: อุตสาหกรรมยานยนต์จะให้ความสำคัญกับการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
• บริการที่หลากหลาย: นอกจากการผลิตและจำหน่ายรถยนต์แล้ว บริษัทผู้ผลิตรถยนต์จะให้บริการที่หลากหลายมากขึ้น เช่น บริการเช่ารถยนต์ และบริการเชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะ

เรียกได้ว่านี่แหละคือโอกาสของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ที่จะก้าวขึ้นเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญในภูมิภาคอาเซียน นอกจากนี้ ยังมีโอกาสในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ที่จะช่วยให้ประเทศไทยเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยียานยนต์อีกด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อาจจะมากับความท้าทายเรื่องเงินลงทุน และการจัดหาบุคลากรที่เชี่ยวชาญ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถรับมือกับความท้าทายและคว้าโอกาสในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าได้อย่างเต็มที่ จึงควรมีหลักสูตรการศึกษาและฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทักษะของบุคลากรให้สอดคล้องกับความต้องการของอุตสาหกรรม

SBU ผู้นำด้านการผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพ พร้อมสู่การเป็นวิศวกรยานยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของประเทศ

อนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และวิศวกรยานยนต์ไฟฟ้าคือกำลังสำคัญที่จะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนี้ การเลือกเรียนวิศวกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่ SBU จะทำให้นักศึกษาได้เจาะลึกทุกแง่มุมของรถยนต์ไฟฟ้า ตั้งแต่การออกแบบ ไปจนถึงการผลิตและบำรุงรักษา เรียนรู้ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติจริง เพื่อให้นักศึกษาทุกคนพร้อมเป็น ‘วิศวกรยานยนต์ไฟฟ้ามืออาชีพ’ ที่ตลาดกำลังต้องการตัวสูง! อยากอนาคตสดใส เงินเดือนสูง ฝักใฝ่หาความรู้ไว้ให้แน่น เพื่อเตรียมตัวลงสนามจริง เริ่มต้นหาความรู้ใหม่ ๆ วันนี้ที่ SBU