เหตุผลที่ควรเลือกเรียน ‘เทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่’ อัปเดตเทรนด์ในอนาคตจะเป็นอย่างไร?

เคยสงสัยกันไหมว่าโลกของยานยนต์ในปัจจุบันมันพัฒนาไปขนาดไหนแล้ว? จากรถยนต์ที่เคยมีแค่เครื่องยนต์และน้ำมันมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่สามารถขับขี่ด้วยพลังงานสะอาด หรือระบบขับขี่อัตโนมัติที่ไม่ต้องใช้คนขับอีกต่อไป! ซึ่งก็มีบางคนที่สงสัยว่า ‘แล้วในอนาคตแท็กซี่หรือคนที่ขับรถโดยสารยังจำเป็นอยู่ไหม’ เพราะการปรับตัวของอุตสาหกรรมนี้อาจทำให้หลาย ๆ อาชีพถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติหรือเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในฐานะนักเรียนนักศึกษาที่กำลังก้าวเข้าสู่โลกใหม่ เราจึงควรให้ความสำคัญกับสิ่งที่กำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตประจำวันของเรา วันนี้จะพาไปเจาะลึกกับเส้นทางของเทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่กันว่าเป็นอย่างไร เทรนด์มาแรง พร้อมเหตุผลว่าทำไมน้อง ๆ  จึงควรลงทุนเรียนกับสาขานี้?

เทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ คืออะไร?

ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวล้ำไปข้างหน้า เทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ ไม่ได้หมายถึงแค่การพัฒนารถยนต์ให้เร็วขึ้นหรือสวยงามขึ้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับการใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย อย่างการขับขี่อัตโนมัติ ระบบรถยนต์ไฟฟ้า และระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ ที่ทำให้การเดินทางปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

7 เทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ที่น่าสนใจ

1. รถยนต์ไฟฟ้า (EV)

รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่ไฟฟ้า เป็นทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยไม่ก่อให้เกิดมลพิษจากการเผาไหม้และมีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาน้อยกว่า ด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่พัฒนาไปไกล ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าวิ่งได้ไกลขึ้น และมีราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น ตัวอย่างแบรนด์ที่ใช้เทคโนโลยีนี้ได้แก่ Tesla Nissan Leaf และ BMW i3 ที่กำลังได้รับความนิยมในตลาด ซึ่งคาดว่าการใช้รถยนต์ไฟฟ้า จะกลายเป็นเทรนด์ที่จะเติบโตต่อเนื่องในหลายปีข้างหน้า

2. เทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ (Autonomous Driving)

รถยนต์ไร้คนขับหรือที่เรียกว่า Autonomous Vehicles เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่หลายคนคุ้นเคยมากขึ้นในปัจจุบัน ด้วยการใช้เซ็นเซอร์ กล้อง และซอฟต์แวร์ AI รถยนต์สามารถขับขี่ได้เองโดยไม่ต้องมีคนขับ สิ่งนี้ช่วยลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่เกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์ และทำให้การเดินทางสะดวกมากขึ้น

3. ระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ (Connected Car)

ในยุคของ 5G และ Internet of Things (IoT) รถยนต์ไม่ใช่แค่เครื่องมือในการเดินทางอีกต่อไป แต่ยังเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตและโลกภายนอกอย่างเต็มตัว ระบบ Connected Car ทำให้สามารถใช้งานสมาร์ทโฟนเพื่อควบคุมฟังก์ชันต่าง ๆ ของรถยนต์ได้ เช่น เปิด-ปิดเครื่องยนต์ ตั้งอุณหภูมิภายในรถ หรือแม้กระทั่งการอัพเดตแผนที่นำทางแบบเรียลไทม์

4. เทคโนโลยีไฮโดรเจน (Hydrogen Fuel Cell)

เทคโนโลยีไฮโดรเจน (Hydrogen Fuel Cell) คือเทคโนโลยีที่ใช้ ไฮโดรเจน เป็นเชื้อเพลิงในการสร้างพลังงานไฟฟ้าโดยกระบวนการเคมีที่ปล่อยน้ำเป็นผลพลอยได้ ซึ่งไม่ก่อให้เกิดมลพิษหรือควันพิษเหมือนเชื้อเพลิงฟอสซิล เทคโนโลยีนี้นับว่าเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนสำหรับการขับขี่ในอนาคต เนื่องจากมันช่วยลดการปล่อยมลพิษ และมีประสิทธิภาพสูงในการใช้พลังงาน เช่น Toyota Mirai และ Honda Clarity เป็นตัวอย่างของรถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีไฮโดรเจนในการขับเคลื่อน

5. ระบบตัดการทำงานเครื่องยนต์จากระยะไกล (Remote Vehicle Shutdown)

เทคโนโลยีที่ช่วยให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ที่มีสิทธิ์สามารถปิดเครื่องยนต์ของรถยนต์ได้จากระยะไกล โดยไม่ต้องเข้าไปในตัวรถ ระบบนี้มักจะถูกใช้ในกรณีฉุกเฉิน เช่น เมื่อรถยนต์ถูกขโมย หรือเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่เสี่ยงต่อความปลอดภัย เช่น การขับขี่ที่ผิดกฎหมาย เทคโนโลยีนี้สามารถช่วยป้องกันอุบัติเหตุและลดความเสี่ยงในการขับขี่ได้อย่างมาก

6. ระบบออกเมนเทด เรียลิที (Augmented Reality – AR)

คือการนำข้อมูลดิจิทัล เช่น ข้อความ เส้นทาง หรือภาพกราฟิก มาแสดงบนกระจกหน้ารถหรือหน้าจอ HUD (Head-Up Display) เพื่อช่วยเพิ่มประสบการณ์ในการขับขี่ โดยไม่ต้องละสายตาจากถนน เทคโนโลยีนี้ช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยขึ้นและสะดวกมากขึ้น เนื่องจากผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญโดยไม่ต้องมองไปที่หน้าจอหรือหมุนไปมองที่หน้าปัด

7. การใช้ข้อมูลชีวภาพแทนกุญแจ (Biometric Vehicle Access)

พูดง่าย ๆ คือ การใช้ลายนิ้วมือ ใบหน้า หรือการสแกนม่านตา เพื่อเปิดหรือเริ่มต้นรถยนต์ แทนการใช้กุญแจแบบดั้งเดิม หรือบัตรที่มีฟังก์ชัน RFID ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการเข้าถึงรถยนต์ ในอนาคตอาจมีการพัฒนาเป็นการใช้เสียง หรือการอ่านลักษณะการเดิน เพื่อยืนยันตัวตนของผู้ขับขี่เพิ่มขึ้น เรียกได้ว่าน่าสนใจมาก ๆ 

การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ จะส่งผลกระทบต่ออนาคตของการขับขี่หรืออาชีพต่าง ๆ อย่างไร?

เทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของรถยนต์ที่ล้ำสมัย แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่จะพลิกโฉมอนาคตของการขับขี่และอาชีพต่าง ๆ อย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นการเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้าที่ลดมลพิษ ระบบขับขี่อัตโนมัติที่เพิ่มความปลอดภัย หรือระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะที่ทำให้การเดินทางสะดวกสบายยิ่งขึ้น เทคโนโลยีเหล่านี้กำลังสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับคนรุ่นใหม่ที่สนใจในสาขานี้ แต่ในขณะเดียวกันก็สร้างความท้าทายให้กับอาชีพเดิม ๆ ที่อาจต้องปรับตัวหรือสูญหายไป โดยเฉพาะในด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ ที่อาจทำให้บทบาทของคนขับรถเปลี่ยนไป หรืออาจถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการหางานในอุตสาหกรรมนี้

เพราะเหตุนี้เอง ทำให้พวกเราต้องเตรียมพร้อมที่จะเรียนรู้และพัฒนาทักษะใหม่ ๆ เพื่อก้าวทันการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีเหล่านี้ยังสร้างโอกาสในด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ การดูแลรักษารถยนต์ไฟฟ้า หรือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานใหม่ เช่น สถานีชาร์จไฟและระบบการขับขี่อัตโนมัติ ซึ่งสร้างโอกาสในการสร้างอาชีพใหม่ ๆ ในสายงานที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่

เลือกเรียนสาขาเทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ดีไหม? เสี่ยงสูงไหม? จบไปทำอะไรได้บ้าง?

การเรียนสาขาเทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ มันคุ้มค่ากับการลงทุนเวลาและแรงกายหรือไม่? ในฐานะที่เราเป็นนักเรียนนักศึกษาที่กำลังตัดสินใจเลือกเส้นทางอาชีพ การเรียนสาขานี้ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายและความเสี่ยงที่ต้องพิจารณา 

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ‘เทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่’ ไม่ได้แค่เกี่ยวข้องกับการสร้างรถยนต์ที่ล้ำสมัย แต่ยังรวมถึงการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า (EV) ระบบขับขี่อัตโนมัติ การเชื่อมต่อระหว่างรถยนต์กับระบบดิจิทัล และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานใหม่ ๆ เช่น สถานีชาร์จไฟ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเทรนด์ที่กำลังเติบโตและมีอนาคตสดใส

ยกตัวอย่างแบรนด์ชั้นนำระดับโลกอย่าง Tesla, BMW และ Toyota ต่างก็กำลังลงทุนหนักในเทคโนโลยีเหล่านี้ โดยมุ่งมั่นที่จะพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูง และระบบขับขี่อัตโนมัติที่มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น เห็นแบบนี้ทำให้เราคาดการณ์เทรนด์การใช้รถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตได้เลยว่า อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่นั้นสดใสแน่นอน อีกทั้งเทรนด์พลังงานสะอาดกำลังมาแรง ทำให้คนยุคใหม่ใส่ใจเรื่องการเลือกใช้พลังงานทดแทน พูดได้เลยว่า ‘อุตสาหกรรมยานยนต์ในอนาคต’ จะมาแรงและน่าจับตามองอย่างมากเลยทีเดียว

จบไปทำอะไรได้บ้าง?

• วิศวกรออกแบบและพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า: ออกแบบและพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าและระบบขับเคลื่อน
• วิศวกรระบบขับขี่อัตโนมัติ: พัฒนาและทดสอบระบบขับขี่อัตโนมัติ
• วิศวกรระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ: พัฒนาระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะสำหรับรถยนต์
• นักวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานทางเลือก: วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานทางเลือก เช่น ไฮโดรเจน

เปิดรับสมัครแล้ววันนี้ ‘สาขาเทคโนโลยีวิศวกรรมยานยนต์สมัยใหม่’ ที่ SBU

สำหรับนักเรียนนักศึกษาที่สนใจในอนาคตของเทคโนโลยียานยนต์ ไม่ต้องกังวลเลยว่า การจบจากสาขานี้จะไม่ตอบโจทย์ตลาดแรงงาน เพราะอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีความต้องการแรงงานที่มีทักษะเฉพาะทางอยู่เสมอ ด้วยหลักสูตรที่อัดแน่นไปด้วยความรู้และทักษะที่ทันสมัย ตอบโจทย์เทรนด์ยานยนต์แห่งอนาคต ทั้งรถยนต์ไฟฟ้า ระบบขับขี่อัตโนมัติ และเทคโนโลยีพลังงานทางเลือก SBU จะเตรียมน้อง ๆ ทุกคนให้พร้อมเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ยุคใหม่ พร้อมโอกาสในการทำงานกับแบรนด์ชั้นนำระดับโลก สมัครเรียนเลย!