ทำความรู้จักอาชีพทนายความอาชีพในฝันของคนรักกฎหมาย และการช่วยเหลือสังคม

ทำความรู้จักกับอาชีพทนายความ ทำหน้าที่อะไร ? อยากเป็นทนายต้องเรียนอะไร ? เส้นทางสู่ทนายความมืออาชีพ โอกาสและความก้าวหน้าในอาชีพทนายความ

อาชีพทนายความเป็นหนึ่งในอาชีพที่ใครหลาย ๆ คนให้ความสนใจไม่น้อยไปกว่าอาชีพอื่น ๆ  ทนายความถือเป็นผู้ที่ช่วยแก้ไขปัญหา ข้อพิพาททางกฎหมายต่าง ๆ ให้กับบุคคล หรือองค์กรธุกิจ อาชีพทนายความไม่เพียงแต่ต้องมีความรู้ในด้านกฎหมาย แต่ยังต้องมีจริยธรรม ความยุติธรรม และความรับผิดชอบที่สูง ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับอาชีพทนายความให้มากขึ้นว่า “ทนายความ คือใคร” และ “ทนายความ มีหน้าที่อะไรบ้าง” ไปดูกัน! 

อาชีพทนายความ ทนายคือใคร และทำหน้าที่อะไร?

ทนายความ ถือเอกสารกฎหมาย ว่าความในศาล

ทนายความ (Lawyer) คือบุคคลที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพกฎหมาย โดยผ่านการสอบ และอบรมจากสภาทนายความ โดยที่ทนายความสามารถให้คำปรึกษากฎหมายแก่ประชาชน ว่าความในศาล ที่ไม่ว่าจะเป็นด้านคดีแพ่ง หรือคดีอาญา และดำเนินการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย อาชีพทนายความจึงเป็นอาชีพที่มีความรู้ความสามารถทางกฎหมายเป็นอย่างดี พร้อมทั้งยังมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือประชาชนให้ได้รับความเป็นธรรม

บทบาทอาชีพทนายความในมุมมองใหม่ ไม่ได้มีแค่การว่าความในศาล

ทนายความซักถามข้อมูลกับลูกความ

ทนายความมีบทบาทและหน้าที่หลากหลายตามประเภทของคดี ไม่ว่าจะเป็นคดีแพง คดีอาญา หรือคดีปกครอง ซึ่งโดยหลัก ๆ แล้วสามารถแบ่งออกได้ ดังนี้

1. การให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย 

ทนายความ มีหน้าที่ให้คำแนะนำแก่ลูกความเกี่ยวกับสิทธิ หน้าที่ และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องปัญหา หรือข้อสงสัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว เช่น เรื่องครอบครัว มรดก หรือที่ดิน หรือเรื่องธุรกิจ เช่น เรื่องสัญญา หุ้นส่วน หรือภาษี

2. การร่างนิติกรรมสัญญา และตรวจสอบเอกสารทางกฎหมาย

ทนายความมีความรู้ ความเชี่ยวชาญในการร่างเอกสารเช่น ข้อตกลง สัญญาซื้อขาย สัญญาเช่า สัญญาจ้างงาน หรือหนังสือมอบอำนาจ เพื่อให้เอกสารเหล่านั้นถูกต้องตามกฎหมาย และปกป้องผลประโยชน์ของลูกความ

3. การเจรจาต่อรอง

ทนายความสามารถทำหน้าที่เป็นจะช่วยในการเจรจาต่อรองกับคู่กรณี เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ และความถูกต้องตามกฎหมาย

4. ป้องกัน และแก้ไขปัญหา

นอกจากการว่าความในคดีที่เกิดขึ้นแล้ว อาชีพทนายความยังสามารถช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้ เช่น การตรวจสอบข้อกฎหมายก่อนการทำธุรกรรม หรือการลงนามในเอกสารสำคัญ

5. การเป็นตัวแทนในศาล

หากเกิดข้อพิพาทหรือคดีความ หนึ่งในหน้าที่สำคัญของอาชีพทนายความ คือการเป็นตัวแทนลูกความในการต่อสู้คดีในศาล โดยใช้ความรู้ ทักษะในการวิเคราะห์ และนำเสนอข้อเท็จจริง รวมถึงการโต้แย้งข้อกฎหมายเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของลูกความ

5 จุดเด่นของอาชีพทนายความที่ทำให้เป็นอาชีพในฝัน

ทนายความหญิงยืนถือเอกสารอยู่ตรงหน้าผู้ต้องสงสัย

1. อิสระและยืดหยุ่นในการทำงาน 

ทนายความเป็นวิชาชีพอิสระ ทำให้สามารถเลือกรับงานที่สนใจ และตรงกับความถนัดของตนเองได้อย่างอิสระ ไม่มีใครมาควบคุม หรือสั่งการ สามารถบริหารจัดการเวลาการทำงานได้อย่างยืดหยุ่น ตามความเหมาะสมของแต่ละคดี

2. โอกาสในการช่วยเหลือผู้อื่น

อาชีพทนายความ คือผู้ที่ทำหน้าที่เป็นปากเสียงให้กับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน ช่วยเหลือประชาชนให้ได้รับความเป็นธรรม และเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้อย่างเท่าเทียมกัน

3. ความท้าทาย และโอกาสในการเรียนรู้

โลกของกฎหมายมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ทนายความจึงต้องพร้อมที่จะเรียนรู้ และพัฒนาตนเองอยู่เสมอ พร้อมกับต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ ๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ข้อเท็จจริง และการวางแผนกลยุทธ์ในการดำเนินคดี

4. ความก้าวหน้าในอาชีพ

ทนายความมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสในการได้รับค่าตอบแทนที่สูงขึ้น และมีชื่อเสียงในวงการกฎหมาย โอกาสในการเป็นผู้บริหารสำนักงานกฎหมาย หรือเป็นที่ปรึกษากฎหมายให้กับบริษัทหรือองค์กรต่าง ๆ

5. รายได้ และผลตอบแทนที่มั่นคง

ทนายความที่มีความสามารถและประสบการณ์สูง จะได้รับค่าตอบแทนที่สูง ซึ่งเป็นผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับการทุ่มเทแรงกายแรงใจในการทำงาน และอาชีพทนายความเป็นอาชีพที่มีความมั่นคงทางการเงิน เนื่องจากปัจจุบันอาชีพทนายความเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานอยู่เสมอ

โอกาสก้าวหน้าในสายอาชีพทนายความ

อาชีพทนายความเป็นมากกว่าแค่การว่าความในศาล อาชีพนี้ถือเป็นเส้นทางแห่งการเติบโต และสามารถสร้างความสำเร็จได้อย่างไร้ขีดจำกัด การเติบโตในอาชีพทนายความขึ้นอยู่กับการสั่งสมประสบการณ์ ช่วยให้ทนายความพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงาน สามารถเลือกที่จะพัฒนาความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในด้านที่ตนเองสนใจ และถนัดได้ ซึ่งในปัจจุบันหลาย ๆ บริษัทต่างต้องการทนายความที่มีความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์สูงที่ให้คำปรึกษา วางแผนกลยุทธ์ทางกฎหมาย การมีบทบาทในการกำหนดนโยบาย และการตัดสินใจ จะทำให้ทนายความได้แสดงศักยภาพ ความสามารถของตนเองได้อย่างเต็มที่ อาชีพทนายความเมื่อมีผลงาน และความสามารถมากเท่าไหร่ ก็จะมีโอกาสในการทำคดีที่สำคัญ ซึ่งจะนำมาซึ่งค่าตอบแทนที่สูงขึ้น มีโอกาสในการเติบโตในสายอาชีพได้ สามารถเปิดสำนักงานกฎหมายเป็นของตัวเอง และเนื่องจากอาชีพทนายความถือเป็นวิชาชีพที่อิสระ สามารถที่จะเลือกรับงาน หรือทำอาชีพเสริมร่วมด้วย ทำให้มีรายได้จากหลายช่องทางมากขึ้น ซึ่งเป็นการสร้างความมั่นคงทางการเงิน และเพิ่มโอกาสในการเรียนรู้พัฒนาตนเอง

สนใจอาชีพทนายความ เริ่มต้นยังไงดี? รู้จักสาขาวิชากฎหมายที่ต้องเรียน

การฝึกอบรมทักษะของทนายความโดยการใช้การจำลองสถานการณ์ขึ้นมา

หากใครที่กำลังสนใจในอาชีพทนายความแต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นอย่างไร ทนายความเรียนคณะอะไร หรือไม่ทราบว่าวิชากฎหมายที่ต้องเรียนมีอะไรบ้าง กับการเริ่มต้นเส้นทางสู่การเป็นทนายความ ตามไปดูกันเลย

1. เลือกเรียนคณะนิติศาสตร์

    เส้นทางสู่อาชีพทนายความเริ่มต้นจากการศึกษาด้านกฎหมาย โดยเลือกเรียนในคณะนิติศาสตร์ ซึ่งเป็นสาขาที่สอนความรู้ความเข้าใจในกฎหมายทั้งภายในประเทศ และกฎหมายระหว่างประเทศ

    2. จบปริญญาตรีด้านวิชากฎหมาย

      หลักสูตรปริญญาตรีในคณะนิติศาสตร์จะมีระยะเวลาเรียนประมาณ 4 ปี เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้ว คุณจะได้รับวุฒิปริญญาตรีทางกฎหมาย (นิติศาสตรบัณฑิต หรือ น.บ.) ซึ่งเป็นใบเบิกทางสู่เส้นทางอาชีพทนายความ โดยเป็นคุณสมบัติพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทนายความ และการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น

      3. การศึกษาต่อ หรือฝึกอบรมหลังจากจบปริญญาตรี

        หลังจากสำเร็จการศึกษาปริญญาตรีด้านกฎหมายแล้ว เส้นทางสู่การเป็นทนายความยังไม่จบเพียงเท่านั้น สิ่งสำคัญคือต้องผ่านการฝึกอบรม และศึกษาต่อในหลักสูตรที่เรียกว่า “การฝึกอบรมวิชาชีพทนายความ” จัดโดยสำนักอบรมวิชาชีพทนายความ มีระยะเวลา 6 เดือน ผู้เรียนจะได้รับการเรียนรู้และฝึกฝนทักษะที่จำเป็นสำหรับการเป็นทนายความอย่างเข้มข้น เนื้อหาครอบคลุมหลากหลายด้าน เช่น เรียนรู้หลักการทำสัญญาที่ถูกต้องตามกฎหมาย ขั้นตอนและวิธีการฟ้องร้องคดีในศาล หรือวิธีการให้คำปรึกษา และดูแลลูกความอย่างมืออาชีพ เป็นต้น

        4. การสอบใบอนุญาตอาชีพทนายความ

          หลังจากจบการฝึกอบรมวิชาชีพทนายความแล้ว ยังมีอีกหนึ่งบททดสอบที่สำคัญที่ทนายความต้องเผชิญ นั่นคือ การสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทนายความ” ซึ่งถือเป็นการทดสอบความรู้ทักษะทางกฎหมายที่ได้ศึกษา และฝึกฝนมาทั้งหมด เพื่อให้มั่นใจว่าพร้อมสำหรับการเป็นทนายความ

          5. การฝึกอบรม และฝึกงานในสำนักงานกฎหมาย

            เมื่อสอบผ่าน หลังจากได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทนายความแล้ว เส้นทางอาชีพทนายความพึ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น สิ่งสำคัญคือการสั่งสมประสบการณ์จริง เพื่อพัฒนาทักษะและความเชี่ยวชาญในการทำงาน การฝึกงานอาจใช้เวลาหลายเดือน หรืออาจเป็นปี เพื่อให้ทนายความใหม่มีความพร้อม และมั่นใจในการทำงานจริง

            6. เข้าสู่วิชาชีพทนายความ

              เมื่อผ่านทุกขั้นตอน คุณจะสามารถขึ้นทะเบียนเป็นทนายความ เริ่มเข้าสู่อาชีพทนายความได้อย่างเต็มตัว และการมีอาชีพทนายความไม่ได้หยุดอยู่แค่การเรียนจบ หรือสอบใบอนุญาตเท่านั้น แต่เป็นการเดินทางแห่งการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง เพราะโลกของกฎหมายมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ทนายความจึงต้องพร้อมที่จะเรียนรู้และปรับตัวอยู่ตลอดเวลา

              ก้าวสู่อาชีพทนายความ เรียนรู้จากคณะนิติศาสตร์ที่ SBU

              ใครที่มีความฝันอยากที่จะเป็นทนายความที่เปี่ยมด้วยความรู้ความสามารถ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเซาธ์อีสท์บางกอก (SBU) พร้อมเป็นก้าวแรกที่มั่นคงสู่เส้นทางอาชีพที่คุณต้องการ ทำไมต้องเรียนนิติศาสตร์ที่ SBU ? เพราะหลักสูตรนิติศาสตร์ของ SBU ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของโลกกฎหมายในยุคปัจจุบัน โดยมีการอัปเดตเนื้อหาให้ทันสมัยอยู่เสมอ และยังมีคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิในแวดวงกฎหมาย ซึ่งพร้อมถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ให้กับนักศึกษาอย่างเต็มที่ พร้อมผลิตบัณฑิตคุณภาพ เปี่ยมคุณธรรมและความรู้ทางกฎหมาย ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ เพื่อประกอบอาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพในหลากหลายสาขา สมัครเรียนที่คณะนิติศาสตร์ SBU วันนี้ เพื่อเริ่มต้นก้าวแรกของคุณสู่เส้นทางอาชีพทนายความที่ประสบความสำเร็จ!

              รับสมัครนักศึกษาใหม่ sbu